MiKroTik ทำ Bridge Port

MikroTik แจก IP ให้เครื่องลูกข่ายในลักษณะของการทำ Bridge Port

การทำ Bridge Port ใน MikroTik หมายถึงการเชื่อมต่อพอร์ตและอุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับ Bridge ที่สร้างขึ้น เพื่อให้เครือข่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ ด้วยการเชื่อมต่อแบบเดียวกัน โดยตัวอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Bridge จะสามารถ รับ / ส่ง ข้อมูล จากอุปกรณ์ใน Bridge อื่นๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ใน Bridge เดียวกันได้

การทำ Bridge Port สามารถเชื่อมต่อหลายช่องเข้าพอร์ต (interface) ต่างๆ ได้ เช่น Ethernet ports, Wireless interfaces, VLAN interfaces ฯลฯ เข้ากับ Bridge ใน MikroTik เพื่อให้เครือข่ายที่เชื่อมต่อกับ port เหล่านั้นสามารถสื่อสารกันได้ผ่าน Bridge

ตั้งค่า MikroTik ทำ Bridge Port จากขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เข้าสู่ MikroTik โดยใช้ Winbox หรือผ่านเว็บ (Web-based configuration interface)
  2. เริ่มต้น Config Mikrotik ให้มีความปลอดภัย
  3. ตั้งค่า MikroTik รับเน็ต ออกเน็ต ในที่นี้ ตั้งค่า MikroTik รับเน็ตแบบ DHCP
  4. ไปที่เมนู “Bridge” ในแท็บ “Bridge” คลิก “+” เพื่อสร้าง Bridge ใหม่ (หากยังไม่มี Bridge ที่สร้างมาก่อนหน้านี้) เช่น bridge_LAN
    สร้าง Bridge Port
  5. ไปที่เมนู “IP -> Address” คลิก “+” กำหนด IP ที่ต้องการทำ Bridge เช่น 192.168.10.1/24
    กำหนด IP ที่ต้องการทำ Bridge
  6.  ไปที่เมนู “IP -> DHCP Server” คลิกที่ “DHCP Setup”
    • “DHCP Sever Interface” เลือก Bridge Port ที่เราสร้างขึ้นมา
      เลือก Bridge Port
    • “DHCP Address Space” กำหนดค่าตามที่ต้องการ
    • “Gateway for DHCP Network” กำหนดค่าตามที่ต้องการ
    • “Addresses to Give Out” กำหนดช่วง Pool ที่ต้องการจ่าย IP เช่น 192.168.10.2 – 192.168.10.254 
    • “DNS Server” ปกติจะใส่เป็น DNS ของ Google (8.8.8.8) และ Cloudflare (1.1.1.1) หรือที่ MikroTik กำหนดมาให้ก็ได้
    • “Lease Time” คือเวลาที่กำหนดว่า หากไม่มีการใช้งานตามเวลาที่ตั้งไว้ ให้เตะออก
       
    • จากนั้นจะขึ้นต่าง Setup has completed successfully ให้กด “OK”
  7. ในหน้าต่าง DHCP Server ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ข้อมูลที่เราตั้งค่าเสร็จไปเมื่อสักครู่นี้ ในช่อง “Name” กำหนดชื่อ dhcp1 ที่เราต้องการ เช่น dhcp_LAN เพื่อระบุให้รู้ว่าเป็น dhcp อะไร กรณีมีหลายวง Network
    กำหนดชื่อ dhcp
  8. ไปที่เมนู “IP -> Firewall” คลิกเลือกแท็บ “์NAT” คลิก “+”
  9. ที่แท็บ “General”

    • ช่อง “Chain” กำหนดเป็น “srcnat”
    • ช่อง “Src. Address” ใส่วง IP DHCP Server ที่เรากำหนดทั้งวง เช่น 192.168.10.0/24 ให้ออกเน็ตได้
      กำหนดวง IP
  10. ที่แท็บ “Action” ช่อง “Action” กำหนดเป็น “masquerade”
    กำหนดค่า Action
  11. กด “Apply” และ “OK” เพื่อบันทึกการตั้งค่า
    แสดงค่าที่เรากำหนด
  12. กำหนด Port ที่จะให้อยู่ในกฎของ Bridge ที่เราสร้างขึ้น ไปที่เมนู “Bridge -> แท็บ Ports” กด “+” เลือก Port ที่ต้องการให้อยู่ในกฎของ Bridge ที่เราสร้างขึ้น หากอยากเพิ่ม Port ให้อยู่ในกฎอีก ก็แค่คลิก “+” แล้วเลือก Port ที่ต้องการได้เลย

    กำหนด port ที่ต้องการให้อยู่ในกฎของ Bridge
  13. ไปที่เมนู “Interfaces” แก้ไขชื่อ Port ที่เราเอาเข้ากฎของ Bridge เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ และการแก้ไข
    แก้ไขชื่อ port เพื่อให้เข้าใจง่าย

ทดสอบจ่าย IP สำเร็จหรือไม่ ?

ในที่นี้จะทดสอบโดยการเสียบสาย LAN เข้า MikroTik ที่ ether5 หรือ port5 ตามตัวอย่างที่ได้กำหนดไว้ และเสียบสาย LAN อีกด้านเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ดูว่าได้ IP ที่จ่ายมาหรือไม่

แสดงค่า IP ที่ได้รับ

หากคอมฯ เชื่อมต่อสำเร็จก็จะได้ IP ในวงที่เราตั้งค่าไว้ เช่น 192.168.10.x (x คือ ip ใดๆ ก็ตามในช่วง Poolที่เรากำหนดไว้)

 

ทดสอบเข้าเว็บไซต์ ว่าสามารถเชื่อมต่อเน็ตได้

ทดสอบเข้าเว็บไซต์

เรียนรู้ ตั้งค่า MikroTik ทำ Bridge Port ผ่านวิดีโอ YouTube

Was this helpful?

2 / 0

ใส่ความเห็น 0

Your email address will not be published. Required fields are marked *


© 2022 KnowledgeCNX