เลือกสาย LAN ให้เหมาะกับงาน

เลือกสาย LAN อย่างไรให้เหมาะกับงาน

สาย LAN ถูกแบ่งออกตามประเภทการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งลักษณะการติดตั้ง การป้องกันสัญญาณรบกวน และแบ่งตาม Bandwidth ที่สาย LAN รองรับได้

การเลือกสาย LAN ที่เหมาะกับงานนั้น ควรพิจารณาความต้องการและเงื่อนไขของการใช้งาน เพื่อให้ได้สายที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่ดีสำหรับงานที่ต้องการเชื่อมต่อเครือข่ายในบริบทที่แตกต่างกัน

รู้จักสาย LAN

สายแลน (LAN Cable) หรือ UTP (Unshielded Twisted Pair)

  • เป็นสายนำสัญญาณชนิดทองแดงที่นำมาตีเกลียวกันเป็นคู่ (Twisted Pairs) และหุ้มฉนวน ซึ่งการบิดตีเกลียว (Twisted) ของสายทองแดง จะช่วยลดสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในการส่งข้อมูลได้ดี
  • ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการ รับ-ส่ง ข้อมูล หรือเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายกลาง เช่น Network Switch, Hub และ Router
  • ส่วนหัวที่ใช้เชื่อมต่อสาย LAN เรียกว่า RJ45

แบ่งประเภทสาย LAN

ตามลักษณะในการป้องกันสัญญาณรบกวน

  • Unshield Twisted Pair (UTP) ไม่มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน เป็นสายทองแดงคู่ บิดตีเกลียวแบบไม่มีชิลด์ป้องกันสัญญาณรบกวน ตัวนำสัญญาณมี 8 เส้น (4คู่) เป็นทองแดงแท้ นิยมใช้กับงานระบบคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป
  • Foil Twisted Pair (UTP) มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน สายทองแดงคู่ บิดตีเกลียวแบบมีชิลด์ป้องกันสัญญาณรบกวน มักใช้งานในพื้นที่ ที่มีสัญญาณรบกวนสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ติดตั้งผ่านเครื่องจักรขนาดใหญ่ ไฟฟ้าแรงสูง ปลั๊กไฟ เป็นต้น

ตามลักษณะการติดตั้ง

Indoor Cable ติดตั้งภายในอาคาร: สาย LAN ประเภทนี้ เปลือกนอกนิยมทำจากวัสดุ PVC เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง และป้องกันการลามไฟได้ดี ซึ่งตามมาตรฐานด้านอัคคีภัยจะต้องมีการใส่สารพิเศษเข้าไปด้วย ทำให้แบ่งรูปแบบสาย LAN Indoor ออกไปได้อีก 4 รูปแบบ คือ

      • CM (Communication Metallic)
        ป้องกันการลามไฟได้ในแนวราบ  มักใช้เดินสายแนวราบในอาคารภายในชั้นเดียวกัน หรืองานอื่นๆ ทั่วไป
      • CMR (Communication Metallic Riser)
        ป้องกันการลามไฟทั้งแนวราบและแนวดิ่ง มักใช้ในการเดินสายสัญญาณระหว่างชั้นในอาคารโดยผ่านช่องเดินสายของตัวอาคาร 
      • CMP (Communication Metallic Plenum)
        เหมาะสำหรับการติดตั้งเดินสายบนฝ้าเพดาน หรือบริเวณช่องว่างเหนือฝ้าที่มีอากาศไหลเวียน แต่ไม่สามารถป้องกันการลามไฟในแนวดิ่งได้
      • LSZH (Low Smoke Zero Halogen)
        ป้องกันการลามไฟได้ทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง พร้อมกับมีคุณสมบัติพิเศษคือ เมื่อเกิดอัคคีภัย สายชนิดนี้จะมีควันน้อยและไม่ก่อให้เกิดสารพิษ
Outdoor Cable ติดตั้งภายนอกอาคาร: เปลือกนอกทำจากวัสดุ PE (Polyethylene) มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก ไม่สึกกร่อน แต่จะไม่สามารถป้องกันการลามไฟได้

ตาม Bandwidth ที่รองรับได้

  •  Category 5E (CAT 5E): เป็นสายที่ทองแดงมีความเร็วต่ำ พัฒนามาจากสาย CAT 5 เดิม รองรับ Bandwidth อยู่ที่ 100-200 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร
  • Category 6 (CAT 6): เป็นสายที่ทองแดงมีความเร็ว ผลิตตามมาตรฐานของ Gigabit Ethernet รองรับ Bandwidth อยู่ที่ 250 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 55 เมตร
  • Category 6A (CAT 6A): เป็นสายที่ทองแดงมีความเร็ว รองรับ Bandwidth อยู่ที่ 500 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร
  • Category 7 (CAT 7): เป็นสายที่ทองแดงที่มีความเร็ว รองรับ Bandwidth อยู่ที่ 600 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gbps ในระยะห่างไม่เกิน 100 เมตร

  • Category 8 (CAT 8): เป็นสายที่ทองแดงมีความเร็ว รองรับ Bandwidth อยู่ที่ 2GHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25/40 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 30 เมตร

สาย LAN ที่ได้รับความนิยมมานานในช่วงหลายปีนี้ คือ Category 5E (CAT 5E) เพราะมีราคาที่ค่อนข้างถูก มีประสิทธิภาพดี และปัจจุบันสาย Category 6 (CAT 6) และ Category 6A (CAT 6A) ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากราคาไม่ได้สูงมากแล้ว

 สาย Patch Cord

  • เป็นสาย LAN สำเร็จรูปแบบแกนฝอย โค้งงอและยือหยุ่นได้ดี
  • มักผลิตหลายสีเพื่อให้แยกแยะสายได้ง่าย
  • เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการหัก งอ ม้วน ของสาย
  • มีความยาวประมาณ 1-20 เมตร
  • ใช้สำหรับเชื่อมต่อจาก Patch Panel ไปยัง Network Switch หรือ เชื่อมต่อจาก Box Outlet RJ-45 ตัวเมีย ไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ

Was this helpful?

1 / 0

ใส่ความเห็น 0

Your email address will not be published. Required fields are marked *